สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม
แมนฯซิตี้
แมนฯซิตี้ ของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เพิ่งจะเปิดรังเอาชนะ โอลิมเปียกอส 3-0 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สำหรับความพร้อมของทีมวันนี้ ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่มเติม เว้นเสียจาก แฟร์นานดินโญ่, เบนจามิน เม็นดี้ และ เซร์กิโอ อากูเอโร่ ซึ่งเดี้ยงอยู่เดิมยกแพ็ค ส่วนทางด้านของ กาเบรียล เฮซุส ฟิตสมบูรณ์กลับมาลงเล่นได้เต็มรูปแบบแล้ว คาดว่า เป๊ป เตรียมจัดทัพในระบบ 4-3-3 โดยมี เฟร์ราน ตอร์เรส, เฮซุส กับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เป็นสามประสานแดนหน้าคอยล่าสกอร์
ตัวแบน : –
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
กองหลัง – เบนจามิน เม็นดี้ (3 นัด)
กองกลาง – แฟร์นานดินโญ่ (4 นัด)
กองหน้า – เซร์กิโอ อากูเอโร่ (2 นัด)
แมนฯซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส – ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบ็น ดิอาส, อายเมริก ลาปอร์ต, เชา คานเซโล่ – เควิน เดอ บรอยน์, โรดริโก้ เอร์นานเดซ, อิลคาย กุนโดกาน – เฟร์ราน ตอร์เรส, กาเบรียล เฮซุส, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เพิ่งจะบุกถล่มเอาชนะ อตาลันต้า 5-0 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมก่อนฟาดแข้ง ยังคงไร้เงา เฟอร์กิล ฟาน ไดย์ค, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, ฟาบินโญ่ และ ติอาโก้ อัลคันตาร่า ซึ่งเดี้ยงอยู่เดิมยกเซ็ต คาดว่า คล็อปป์ เตรียมวางหมากในแผนการเล่น 4-2-3-1 โดยมี ดิโอโก้ โชต้า ยืนหน้าล่าสกอร์และใช้ ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ กับ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ เป็นสามประสานกลางรุกคอยสนับสนุนจากด้านหลัง
ตัวแบน : –
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
กองหลัง – เฟอร์กิล ฟาน ไดย์ค (5 นัด/1 ประตู)
กองกลาง – อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน (-), ฟาบินโญ่ (6 นัด), ติอาโก้ อัลคันตาร่า (2 นัด)
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : อลิสซง เบ็คเกอร์ – เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, โจ โกเมซ, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินิโอ้ ไวย์นัลดุม – ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ – ดิโอโก้ โชต้า
สำหรับศึกใหญ่ระดับเขย่าวงการพรีเมียร์ลีกหนนี้ เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากปราชัยให้ใครแน่นอน ซึ่งทาง ลิเวอร์พูล ก็น่าจะวางหมากและแทคติกเน้นรัดกุม เพื่อเซฟคะแนนสำคัญกลับออกไป ซึ่งพวกเขาบุกมาพร้อมกับความมั่นใจอันเต็มเปี่ยม หลังคว้าชัยรวด 5 หนท้ายทุกรายการ และซัดไม่ยั้งเท้ารวมทั้งสิ้น 12 ประตูเลยทีเดียว จริงอยู่ที่เจ้าถิ่น แมนฯซิตี้ ก็อยู่ในช่วงที่กำลังเริ่มกลับมาเข้มเต็มพิกัดอีกครั้ง ยิ่งไปตัว กาเบรียล เฮซุส กลับมาล่าสกอร์เป็นตัวเป้า ยิ่งทำให้หลายๆ ตำแหน่งลงตัวมากขึ้น แต่ก็คงไม่ง่ายที่จะเก็บชัยเหนือแชมป์เก่าได้อยู่ดี แนะนำอยู่รองประคองสกอร์รอรับทรัพย์ดีกว่า ฟันธง! เชียร์ “หงส์แดง” แรงต่อเนื่อง
ติดตามไฮไลท์เพิ่มเติมได้ที่ : http://www.7mscorethailand.com/
สามารถติดตามต่อได้ที่ @line: http://@7mscorethailand หรือทาง Fanpage
